gen 46:19 TNCV
逐节对照
交叉引用
  • กันดารวิถี 26:38 - วงศ์วานของเบนยามินแยกตามตระกูล ได้แก่ ตระกูลเบลาจากเบลา ตระกูลอัชเบลจากอัชเบล ตระกูลอาหิรัมจากอาหิรัม
  • กันดารวิถี 26:39 - ตระกูลชูฟาม จากชูฟาม และตระกูลหุฟามจากหุฟาม
  • กันดารวิถี 26:40 - วงศ์วานของเบลาทางอาร์ดและนาอามาน ได้แก่ ตระกูลอาร์ดจากอาร์ด และตระกูลนาอามานจากนาอามาน
  • กันดารวิถี 26:41 - ทั้งหมดนี้คือตระกูลต่างๆ ของเบนยามิน นับได้ 45,600 คน
  • ปฐมกาล 37:1 - ยาโคบตั้งถิ่นฐานในดินแดนที่บิดาของเขาเคยพักอยู่ คือดินแดนคานาอัน
  • ปฐมกาล 37:2 - นี่คือเรื่องราวเชื้อสายของยาโคบ ขณะที่โยเซฟอายุสิบเจ็ดปี เขาไปเลี้ยงสัตว์กับพวกพี่ชายต่างมารดา บุตรของนางบิลฮาห์และนางศิลปาห์ผู้เป็นภรรยาของบิดา โยเซฟเอาความผิดของพี่ชายมาเล่าให้บิดาฟัง
  • ปฐมกาล 37:3 - อิสราเอลนั้นรักโยเซฟมากกว่าบุตรชายคนอื่นๆ เพราะโยเซฟเกิดเมื่อเขาอายุมากแล้ว เขาให้เสื้อคลุมที่ตกแต่งอย่างงดงาม แก่โยเซฟ
  • ปฐมกาล 37:4 - เมื่อพวกพี่ๆ เห็นว่าพ่อรักโยเซฟมากกว่า พวกเขาจึงเกลียดชังโยเซฟและไม่ยอมพูดดีด้วย
  • ปฐมกาล 37:5 - โยเซฟฝัน และเมื่อเขาเล่าความฝันให้พี่น้องฟัง พวกเขาก็ยิ่งเกลียดโยเซฟมากขึ้น
  • ปฐมกาล 37:6 - โยเซฟกล่าวว่า “มา ฉันจะเล่าความฝันให้ฟัง
  • ปฐมกาล 37:7 - ในฝันนั้น พวกเรากำลังมัดฟ่อนข้าวอยู่ด้วยกันในทุ่งนา ทันใดนั้นฟ่อนข้าวของฉันก็ตั้งขึ้น ส่วนฟ่อนข้าวของพี่ๆ มาห้อมล้อมคำนับฟ่อนข้าวของฉัน”
  • ปฐมกาล 37:8 - พวกพี่ชายจึงพูดว่า “เจ้าคิดจะปกครองพวกเราอย่างนั้นหรือ? เจ้าจะปกครองพวกเราจริงๆ หรือ?” พวกเขาจึงเกลียดชังโยเซฟมากขึ้นเพราะความฝันและเพราะคำพูดของโยเซฟ
  • ปฐมกาล 37:9 - ต่อมาโยเซฟก็ฝันอีกและเล่าให้พี่น้องของเขาฟังว่า “ฟังสิ ฉันฝันอีกแล้ว ฉันฝันเห็นดวงอาทิตย์ ดวงจันทร์ กับดาวสิบเอ็ดดวงมาน้อมคำนับฉัน”
  • ปฐมกาล 37:10 - เมื่อเขาเล่าให้ทั้งพ่อและพี่น้องฟัง พ่อตำหนิเขาว่า “ที่เจ้าฝันนั้นหมายความว่าอย่างไร? แม่ของเจ้า ตัวข้า และพี่น้องของเจ้าจะต้องกราบคำนับเจ้าถึงดินอย่างนั้นหรือ?”
  • ปฐมกาล 37:11 - พวกพี่ชายอิจฉาโยเซฟ แต่บิดาของเขาเก็บเรื่องนี้ไว้ในใจ
  • ปฐมกาล 37:12 - วันหนึ่งพี่ๆ ของโยเซฟต้อนฝูงสัตว์ไปเลี้ยงใกล้เมืองเชเคม
  • ปฐมกาล 37:13 - อิสราเอลเรียกโยเซฟมาสั่งว่า “เจ้าก็รู้แล้วว่าพวกพี่ชายของเจ้าออกไปเลี้ยงสัตว์ใกล้เมืองเชเคม มาเถิด เราจะส่งเจ้าไปหาพวกเขา” เขาตอบว่า “ได้ขอรับ”
  • ปฐมกาล 37:14 - ดังนั้นอิสราเอลจึงกล่าวกับโยเซฟว่า “เจ้าจงไปดูว่าพวกพี่ชายของเจ้าและฝูงสัตว์เป็นอย่างไรกันบ้าง แล้วจงกลับมาบอกพ่อ” แล้วอิสราเอลจึงส่งเขาออกจากหุบเขาเฮโบรน เมื่อโยเซฟมาถึงเมืองเชเคม
  • ปฐมกาล 37:15 - ชายคนหนึ่งสังเกตเห็นเขาวนเวียนอยู่ในท้องทุ่งจึงถามว่า “เจ้ากำลังหาอะไร?”
  • ปฐมกาล 37:16 - เขาตอบว่า “ฉันกำลังหาพวกพี่ชายของฉัน ท่านทราบไหมว่าพวกเขาเลี้ยงสัตว์อยู่ที่ไหน?”
  • ปฐมกาล 37:17 - ชายคนนั้นตอบว่า “พวกเขาไปจากที่นี่แล้ว ข้าได้ยินพวกเขาพูดกันว่า ‘ให้เราไปเมืองโดธานกันเถิด’ ” โยเซฟจึงตามพวกพี่ชายไปและพบพวกเขาใกล้เมืองโดธาน
  • ปฐมกาล 37:18 - แต่พวกเขาเห็นโยเซฟแต่ไกล และก่อนที่โยเซฟจะมาถึง พวกพี่ชายก็คบคิดกันจะฆ่าโยเซฟ
  • ปฐมกาล 37:19 - พวกพี่ๆ ก็พูดกันว่า “เจ้าคนช่างฝันมานั่นแล้วไง!
  • ปฐมกาล 37:20 - เร็วเข้า ให้เราฆ่ามันและโยนศพมันทิ้งลงไปในบ่อสักบ่อหนึ่ง แล้วบอกว่ามันถูกสัตว์ร้ายขย้ำกินไปแล้ว ทีนี้เราจะได้เห็นกันว่าฝันของมันจะเป็นจริงได้อย่างไร”
  • ปฐมกาล 37:21 - เมื่อรูเบนได้ยินเช่นนี้ก็พยายามช่วยโยเซฟให้พ้นเงื้อมมือของพวกเขา รูเบนจึงกล่าวว่า “อย่าเอาชีวิตเขาเลย”
  • ปฐมกาล 37:22 - รูเบนกล่าวอีกว่า “อย่าลงมือฆ่าเขาเลย ให้เราโยนเขาลงไปในบ่อ ทิ้งไว้ในถิ่นกันดารนี้ อย่าลงมือทำอะไรเขาเลย” รูเบนพูดเช่นนี้เพราะเขาต้องการช่วยโยเซฟและพากลับไปหาพ่อ
  • ปฐมกาล 37:23 - ดังนั้นเมื่อโยเซฟมาถึง พวกพี่ๆ จึงกระชากเสื้อคลุมที่ตกแต่งอย่างงดงามของเขาออก
  • ปฐมกาล 37:24 - แล้วจับเขาโยนลงไปในบ่อร้างซึ่งไม่มีน้ำ
  • ปฐมกาล 37:25 - ขณะที่พวกพี่ๆ นั่งลงกินอาหารอยู่นั้น พวกเขาเงยหน้าขึ้นมองไปเห็นขบวนคาราวานของคนอิชมาเอลที่มาจากกิเลอาด ฝูงอูฐของพวกเขาบรรทุก เครื่องเทศ ยางไม้ และมดยอบ กำลังมุ่งหน้าไปยังอียิปต์
  • ปฐมกาล 37:26 - ยูดาห์จึงพูดกับพี่น้องของเขาว่า “เราจะได้ประโยชน์อะไร ถ้าเราฆ่าน้องของเราแล้วกลบเกลื่อนเรื่องนี้?
  • ปฐมกาล 37:27 - ให้เราขายโยเซฟให้พวกอิชมาเอลเถิด อย่าทำอะไรเขาเลย ถึงอย่างไรเขาก็เป็นพี่น้องของเรา เป็นเลือดเนื้อเชื้อไขเดียวกับเรา” พี่น้องก็เห็นด้วย
  • ปฐมกาล 37:28 - ฉะนั้นเมื่อพวกพ่อค้าชาวมีเดียนมาถึง พวกพี่ๆ จึงดึงโยเซฟขึ้นจากบ่อ แล้วขายโยเซฟให้คนอิชมาเอลไปเป็นเงิน 20 เชเขล และเขาก็พาโยเซฟไปอียิปต์
  • ปฐมกาล 37:29 - ฝ่ายรูเบนกลับมาที่บ่อน้ำแล้วไม่พบโยเซฟจึงฉีกเสื้อผ้าของตน
  • ปฐมกาล 37:30 - เขากลับมาหาน้องๆ และพูดว่า “เด็กนั้นไม่อยู่เสียแล้ว! พี่จะทำอย่างไรดี?”
  • ปฐมกาล 37:31 - พวกเขาจึงฆ่าแพะแล้วเอาเสื้อคลุมของโยเซฟจุ่มลงในเลือด
  • ปฐมกาล 37:32 - จากนั้นพวกเขาก็นำเสื้อคลุมที่ประดับประดาอย่างสวยงามตัวนั้นกลับไปให้บิดา และกล่าวว่า “พวกเราพบเสื้อตัวนี้ ขอให้พ่อตรวจดูว่าใช่เสื้อคลุมของลูกชายของพ่อหรือไม่”
  • ปฐมกาล 37:33 - ยาโคบจำเสื้อตัวนี้ได้จึงกล่าวว่า “นี่เป็นเสื้อคลุมของลูกเรา! สัตว์ร้ายได้ขย้ำเขาเสียแล้ว โยเซฟถูกฉีกออกเป็นชิ้นๆ แน่”
  • ปฐมกาล 37:34 - ยาโคบจึงฉีกเสื้อผ้าของตน นุ่งห่มผ้ากระสอบ และคร่ำครวญอาลัยถึงบุตรชายของเขาอยู่หลายวัน
  • ปฐมกาล 37:35 - บุตรชายหญิงทุกคนได้มาปลอบโยนเขา แต่เขาก็ไม่ฟังคำปลอบโยนและกล่าวว่า “อย่าเลย เราจะคร่ำครวญจนกว่าเราจะลงไปหาลูกของเราในแดนคนตาย” ดังนั้นพ่อของโยเซฟก็ร้องไห้อาลัยถึงเขา
  • ปฐมกาล 37:36 - ในขณะเดียวกัน ที่อียิปต์ คนมีเดียน ได้ขายโยเซฟให้แก่โปทิฟาร์ผู้บัญชาการทหารรักษาพระองค์ ซึ่งเป็นขุนนางคนหนึ่งของฟาโรห์
  • เฉลยธรรมบัญญัติ 33:12 - เขากล่าวถึงเผ่าเบนยามินว่า “ขอให้ผู้ที่องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงรักพักพิงในพระองค์อย่างมั่นคงปลอดภัย เพราะพระองค์ทรงปกป้องเขาวันยังค่ำ และให้ผู้ที่พระองค์ทรงรักพักอยู่แนบพระทรวงของพระองค์”
  • เฉลยธรรมบัญญัติ 33:13 - เขากล่าวถึงเผ่าโยเซฟว่า “ขอองค์พระผู้เป็นเจ้าทรงอวยพรดินแดนของเขา ด้วยน้ำค้างล้ำเลิศจากฟ้าสวรรค์เบื้องบน และด้วยห้วงน้ำลึกเบื้องล่าง
  • เฉลยธรรมบัญญัติ 33:14 - ด้วยผลผลิตยอดเยี่ยมจากดวงตะวัน และด้วยผลผลิตที่ดีที่สุดตามฤดูกาล
  • เฉลยธรรมบัญญัติ 33:15 - ด้วยของขวัญเลอเลิศจากภูเขาดึกดำบรรพ์ ด้วยความสมบูรณ์พูนผลจากภูเขาอันถาวรนิรันดร์
  • เฉลยธรรมบัญญัติ 33:16 - ด้วยของขวัญล้ำค่าจากผืนแผ่นดิน และความอุดมสมบูรณ์จากพื้นพสุธา และด้วยความโปรดปรานจากพระองค์ผู้ประทับในพุ่มไม้ที่ลุกเป็นไฟ ขอให้พรทั้งปวงนี้มาเหนือโยเซฟ เหนือเจ้านายในหมู่พี่น้อง
  • เฉลยธรรมบัญญัติ 33:17 - ผู้ทรงไว้ซึ่งศักดาดุจลูกวัวหนุ่มหัวปี เขาสัตว์ของเขาคือเขาของวัวป่า เขาจะขวิดประชาชาติทั้งหลายด้วยเขาสัตว์เหล่านั้น แม้ประชาชาติที่อยู่สุดปลายแผ่นดินโลก นี่แหละคือชนเอฟราอิมนับหมื่น และชนมนัสเสห์นับพัน”
  • ปฐมกาล 47:1 - โยเซฟจึงเข้าไปทูลฟาโรห์ว่า “บิดาและพี่น้องของข้าพระบาทจากคานาอัน พร้อมด้วยฝูงสัตว์และทรัพย์สมบัติได้มาถึงโกเชนแล้ว”
  • ปฐมกาล 47:2 - โยเซฟได้คัดเลือกพี่น้องของเขามาห้าคน แล้วเบิกตัวเข้าเฝ้าฟาโรห์
  • ปฐมกาล 47:3 - ฟาโรห์ตรัสถามว่า “พวกเจ้ามีอาชีพอะไร?” พวกเขาทูลว่า “ผู้รับใช้ของฝ่าพระบาทเป็นคนเลี้ยงแกะตามอย่างบรรพบุรุษของข้าพระบาททั้งหลาย”
  • ปฐมกาล 47:4 - พวกเขายังทูลฟาโรห์อีกว่า “พวกข้าพระบาทต้องมาอาศัยอยู่ที่นี่อย่างคนต่างด้าวสักระยะหนึ่ง เนื่องจากเกิดการกันดารอาหารอย่างรุนแรงในคานาอัน ผู้รับใช้ของฝ่าพระบาทไม่มีทุ่งหญ้าสำหรับเลี้ยงสัตว์ ดังนั้นขอโปรดอนุญาตให้ผู้รับใช้ของฝ่าพระบาทได้อาศัยในโกเชนเถิด”
  • ปฐมกาล 47:5 - ฟาโรห์ตรัสกับโยเซฟว่า “บิดากับพี่น้องของเจ้ามาหาเจ้าแล้ว
  • ปฐมกาล 47:6 - และเจ้าก็มีอำนาจเหนือแผ่นดินอียิปต์ จงให้บิดาและพี่น้องของเจ้าตั้งถิ่นฐานในส่วนที่ดีที่สุดของดินแดนนี้ จงให้พวกเขาอาศัยอยู่ในโกเชน และหากเจ้ารู้ว่าพี่น้องของเจ้าคนใดมีความสามารถพิเศษก็แต่งตั้งเขาให้ดูแลฝูงสัตว์ของเราด้วย”
  • ปฐมกาล 47:7 - จากนั้นโยเซฟก็นำตัวยาโคบผู้เป็นบิดามาเข้าเฝ้าฟาโรห์ หลังจากยาโคบถวายพระพร แด่ฟาโรห์แล้ว
  • ปฐมกาล 47:8 - ฟาโรห์ตรัสถามว่า “ท่านอายุเท่าไรแล้ว?”
  • ปฐมกาล 47:9 - ยาโคบทูลว่า “ข้าพเจ้าร่อนเร่มา 130 ปีแล้ว ปีเดือนของข้าพระบาทก็สั้นและลำเค็ญ ไม่ยืนยาวเหมือนบรรพบุรุษผู้มีชีวิตเร่ร่อนเช่นกัน”
  • ปฐมกาล 47:10 - แล้วยาโคบก็ถวายพระพร แด่ฟาโรห์และออกไป
  • ปฐมกาล 47:11 - โยเซฟจึงให้บิดาและพี่น้องของเขาอาศัยอยู่ในอียิปต์ และมอบที่ดินที่ดีที่สุดคือเมืองราเมเสสให้แก่พวกเขาตามรับสั่งของฟาโรห์
  • ปฐมกาล 47:12 - โยเซฟยังได้จัดหาอาหารให้บิดา พี่น้อง และทุกคนในครัวเรือนของบิดาของเขา รวมทั้งลูกหลานของพวกเขาทุกคนด้วย
  • ปฐมกาล 47:13 - ครั้งนั้นทั่วแผ่นดินไม่มีอาหาร เพราะการกันดารอาหารรุนแรงจนผู้คนทั่วอียิปต์และคานาอันต่างพากันอดอยากหิวโหย
  • ปฐมกาล 47:14 - ชาวอียิปต์และชาวคานาอันเอาเงินออกมาซื้อข้าวจนหมด โยเซฟรวบรวมเงินเข้าวังของฟาโรห์
  • ปฐมกาล 47:15 - เมื่อราษฎรชาวอียิปต์และคานาอันหมดเงินแล้ว ชาวอียิปต์ทั้งสิ้นต่างพากันมาหาโยเซฟ พวกเขาพูดว่า “โปรดให้อาหารแก่พวกเราเถิด เหตุใดเราจึงต้องตายไปต่อหน้าต่อตาท่าน? เงินของเราหมดแล้ว”
  • ปฐมกาล 47:16 - โยเซฟตอบว่า “ถ้าเช่นนั้นจงนำฝูงสัตว์มาให้เรา เราจะขายอาหารให้เจ้าโดยการแลกเปลี่ยนกับฝูงสัตว์ของเจ้า เพราะเจ้าไม่มีเงินแล้ว”
  • ปฐมกาล 47:17 - พวกเขาจึงนำฝูงสัตว์ของตนได้แก่ ม้า แกะและแพะ วัวและลา มาให้โยเซฟเพื่อแลกกับอาหาร ตลอดทั้งปีนั้นโยเซฟได้แลกอาหารกับฝูงสัตว์ทั้งหมดของประชาชน
  • ปฐมกาล 47:18 - เมื่อปีนั้นผ่านไป ราษฎรต่างพากันมาหาโยเซฟในปีต่อมา และพูดว่า “พวกเราไม่สามารถปิดบังความจริงกับเจ้านายของเราได้ พวกเราไม่มีเงินแล้ว และฝูงสัตว์ก็ตกเป็นของท่าน บัดนี้เราเหลือแต่ตัวกับที่ดินของเรา
  • ปฐมกาล 47:19 - เหตุใดตัวเราและดินแดนของเราจะต้องพินาศไปต่อหน้าต่อตาท่านด้วย? โปรดซื้อตัวเรากับที่ดินของพวกเราไว้เป็นค่าอาหารเถิด แล้วพวกเรากับดินแดนของเราจะเป็นทาสของฟาโรห์ โปรดให้เมล็ดพันธุ์ข้าวแก่พวกเราเถิด เพื่อพวกเราจะไม่อดตาย แต่มีชีวิตอยู่ได้ และแผ่นดินจะไม่ถูกปล่อยให้รกร้างว่างเปล่า”
  • ปฐมกาล 47:20 - ดังนั้นโยเซฟจึงซื้อที่ดินทั่วอียิปต์ให้ฟาโรห์ ชาวอียิปต์ทุกคนขายที่ดินของตนแก่เขา เพราะการกันดารอาหารนั้นรุนแรงยิ่งนัก ที่ดินทั่วประเทศก็ตกเป็นของฟาโรห์
  • ปฐมกาล 47:21 - และโยเซฟก็ลดฐานะของชาวอียิปต์ทั้งปวงให้อยู่ในฐานะทาส
  • ปฐมกาล 47:22 - อย่างไรก็ตาม โยเซฟก็ไม่ได้ซื้อที่ดินของปุโรหิตเพราะพวกเขาได้รับปันส่วนจากฟาโรห์ พวกเขามีอาหารเพียงพอเนื่องจากได้รับปันส่วนอาหารจากฟาโรห์เช่นกัน จึงไม่มีความจำเป็นต้องขายที่ดิน
  • ปฐมกาล 47:23 - โยเซฟกล่าวกับบรรดาราษฎรว่า “บัดนี้เราได้ซื้อตัวท่านกับที่ดินของท่านไว้เป็นกรรมสิทธิ์ของฟาโรห์แล้ว นี่เป็นเมล็ดพันธุ์ข้าว ท่านจงเอาไปเพาะปลูก
  • ปฐมกาล 47:24 - เมื่อเก็บเกี่ยวแล้วจงถวายหนึ่งในห้าแก่ฟาโรห์ อีกสี่ส่วนให้เจ้าเก็บไว้เป็นของตนเอง เพื่อใช้เป็นพันธุ์สำหรับเพาะปลูกและเป็นอาหารของตัวเจ้า ของครัวเรือนและลูกๆ ของเจ้า”
  • ปฐมกาล 47:25 - พวกเขากล่าวว่า “ท่านได้ช่วยชีวิตของพวกเราไว้ ขอให้นายท่านเมตตาเราเถิด พวกเราจะเป็นทาสของฟาโรห์”
  • ปฐมกาล 47:26 - โยเซฟจึงตราเป็นกฎหมายเกี่ยวกับที่ดินขึ้นในประเทศอียิปต์ซึ่งยังใช้อยู่จนทุกวันนี้ คือหนึ่งในห้าของผลผลิตทั้งหมดต้องตกเป็นของฟาโรห์ มีเฉพาะที่ดินของปุโรหิตเท่านั้นที่ไม่ได้กลายเป็นของฟาโรห์
  • ปฐมกาล 47:27 - บัดนี้ชนอิสราเอลตั้งถิ่นฐานอยู่ในดินแดนโกเชนที่อียิปต์ พวกเขาครอบครองกรรมสิทธิ์ที่นั่นและมีลูกมีหลานทวีจำนวนขึ้นมากมาย
  • ปฐมกาล 47:28 - ยาโคบมีชีวิตอยู่ในอียิปต์ 17 ปี เขามีอายุรวมทั้งสิ้น 147 ปี
  • ปฐมกาล 47:29 - เมื่ออิสราเอลใกล้จะตาย เขาเรียกโยเซฟลูกชายของเขาเข้ามาสั่งว่า “หากเจ้าจะกรุณาเรา เจ้าจงเอามือของเจ้าไว้ที่หว่างขาของเรา และจงสัญญาว่าเจ้าจะสำแดงความเมตตาและความซื่อสัตย์ต่อเรา คืออย่าฝังศพเราไว้ที่อียิปต์
  • ปฐมกาล 47:30 - แต่เมื่อเราล่วงลับไปอยู่กับบรรพบุรุษของเราแล้ว จงนำศพเราออกจากอียิปต์ไปฝังไว้ที่เดียวกับบรรพบุรุษของเรา” โยเซฟตอบว่า “เราจะทำตามที่พ่อสั่ง”
  • ปฐมกาล 47:31 - ยาโคบบอกอีกว่า “จงสาบานกับพ่อ” โยเซฟก็สาบาน แล้วอิสราเอลก็นมัสการและก้มลงที่หัวไม้เท้า
  • ปฐมกาล 50:1 - โยเซฟโผเข้าไปหาร่างของบิดา ร้องไห้และจูบเขา
  • ปฐมกาล 50:2 - หลังจากนั้นโยเซฟจึงสั่งให้บรรดาหมอซึ่งรับใช้ตนอยู่นั้นอาบยารักษาศพอิสราเอลบิดาของเขาไว้ พวกหมอก็อาบยารักษาศพอิสราเอล
  • ปฐมกาล 50:3 - การอาบยานี้ใช้เวลาสี่สิบวันเต็ม และชาวอียิปต์ก็ไว้ทุกข์ให้อิสราเอลเจ็ดสิบวัน
  • ปฐมกาล 50:4 - เมื่อเวลาไว้ทุกข์สิ้นสุดลงแล้ว โยเซฟก็พูดกับข้าราชสำนักของฟาโรห์ว่า “หากเราเป็นที่โปรดปรานในสายตาของท่าน โปรดทูลฟาโรห์แทนเราว่า
  • ปฐมกาล 50:5 - ‘บิดาของโยเซฟให้เขาสาบานและกล่าวกับเขาว่า “เรากำลังจะตาย จงฝังเราไว้ในสุสานที่เราขุดไว้เพื่อตนเองในคานาอัน” บัดนี้เราขอประทานอนุญาตไปฝังศพบิดาแล้วจะกลับมา’ ”
  • ปฐมกาล 50:6 - ฟาโรห์ตรัสว่า “จงไปฝังศพบิดาตามที่สาบานไว้เถิด”
  • ปฐมกาล 50:7 - ดังนั้นโยเซฟจึงไปฝังศพบิดาพร้อมข้าราชบริพารทั้งสิ้นของฟาโรห์ได้แก่ ผู้มีเกียรติของราชสำนักและผู้มีเกียรติทั้งปวงของอียิปต์
  • ปฐมกาล 50:8 - รวมทั้งสมาชิกทุกคนในครัวเรือนของโยเซฟ พวกพี่น้องและคนในครัวเรือนของบิดา มีเพียงเด็กๆ และฝูงสัตว์ทั้งหลายยังอยู่ที่โกเชน
  • ปฐมกาล 50:9 - ขบวนรถม้าศึกและพลม้า ก็ติดตามโยเซฟไปด้วย ขบวนผู้ติดตามใหญ่โตเป็นกองทัพ
  • ปฐมกาล 50:10 - เมื่อพวกเขามาถึงลานนวดข้าวที่อาทาดใกล้แม่น้ำจอร์แดน พวกเขาก็ร้องไห้คร่ำครวญอย่างขมขื่นเสียงดังมาก โยเซฟไว้ทุกข์ให้บิดาเจ็ดวัน
  • ปฐมกาล 50:11 - เมื่อชาวคานาอันผู้อาศัยอยู่ที่นั่นเห็นการไว้ทุกข์ที่ลานนวดข้าวที่อาทาด พวกเขาพูดกันว่า “ชาวอียิปต์เหล่านี้กำลังประกอบพิธีไว้ทุกข์ครั้งใหญ่” จึงเรียกชื่อสถานที่ใกล้แม่น้ำจอร์แดนนั้นว่าอาเบลมิสราอิม
  • ปฐมกาล 50:12 - ดังนั้นบุตรชายทั้งหลายของยาโคบจึงได้ปฏิบัติตามคำสั่งของเขา
  • ปฐมกาล 50:13 - พวกเขานำศพของยาโคบมายังดินแดนคานาอันและฝังไว้ในถ้ำที่อยู่ในทุ่งนาชื่อมัคเปลาห์ใกล้มัมเร ซึ่งอับราฮัมซื้อไว้เป็นที่ฝังศพจากเอโฟรนชาวฮิตไทต์พร้อมกับทุ่งนา
  • ปฐมกาล 50:14 - หลังจากฝังศพบิดาแล้ว โยเซฟจึงกลับไปยังอียิปต์พร้อมพี่น้องและทุกคนที่ติดตามมาร่วมพิธีฝังศพบิดาของเขา
  • ปฐมกาล 35:24 - บุตรชายที่เกิดจากราเชล ได้แก่ โยเซฟและเบนยามิน
  • ปฐมกาล 30:24 - นางตั้งชื่อเขาว่าโยเซฟ และกล่าวว่า “ขอองค์พระผู้เป็นเจ้าทรงเพิ่มลูกชายให้ฉันอีกคนหนึ่ง”
  • ปฐมกาล 39:1 - บัดนี้โยเซฟถูกนำมาถึงอียิปต์ คนอิชมาเอลได้ขายเขาให้กับโปทิฟาร์ผู้บัญชาการทหารรักษาพระองค์ซึ่งเป็นขุนนางคนหนึ่งของฟาโรห์
  • ปฐมกาล 39:2 - องค์พระผู้เป็นเจ้าสถิตกับโยเซฟและทรงอวยพรให้เขาเจริญรุ่งเรืองขึ้นในบ้านของเจ้านายชาวอียิปต์
  • ปฐมกาล 39:3 - เมื่อนายเห็นว่าองค์พระผู้เป็นเจ้าสถิตกับเขา และองค์พระผู้เป็นเจ้าประทานความสำเร็จในทุกสิ่งที่เขาทำ
  • ปฐมกาล 39:4 - โยเซฟจึงเป็นที่โปรดปรานและกลายเป็นคนสนิทของนาย โปทิฟาร์จึงตั้งให้โยเซฟดูแลครัวเรือนของเขา และมอบทุกสิ่งที่เขามีอยู่ไว้ในมือของโยเซฟ
  • ปฐมกาล 39:5 - ตั้งแต่นายมอบหมายให้โยเซฟดูแลทุกสิ่งในครัวเรือนและทุกสิ่งที่เขามี องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงอวยพรครอบครัวของคนอียิปต์นั้นเพราะเห็นแก่โยเซฟ องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงอวยพรทุกสิ่งของโปทิฟาร์ทั้งในบ้านและในทุ่งนา
  • ปฐมกาล 39:6 - ดังนั้นโปทิฟาร์จึงไว้ใจให้โยเซฟดูแลทุกสิ่งที่เขามี เมื่อมีโยเซฟเป็นผู้ดูแล เขาไม่ต้องรับรู้เรื่องใดเลย เว้นแต่อาหารที่จะรับประทาน โยเซฟเป็นชายรูปหล่อหุ่นดี
  • ปฐมกาล 39:7 - จากนั้นไม่นานภรรยาของเจ้านายจ้องมองโยเซฟตาเป็นมัน นางจึงชวนเขาว่า “มานอนกับฉันสิ!”
  • ปฐมกาล 39:8 - แต่โยเซฟปฏิเสธและกล่าวกับนางว่า “ภายใต้การดูแลของข้า นายไม่ต้องรับรู้เรื่องใดในบ้านเลย ทุกสิ่งที่นายมีอยู่ นายก็มอบให้ข้าจัดการ
  • ปฐมกาล 39:9 - ในบ้านนี้ไม่มีใครใหญ่เกินข้า เจ้านายของข้าไม่หวงสิ่งใดกับข้านอกจากท่าน เพราะท่านเป็นภรรยาของนาย ข้าจะทำสิ่งชั่วร้ายเช่นนี้และทำบาปต่อพระเจ้าได้อย่างไร?”
  • ปฐมกาล 39:10 - แม้นางชวนโยเซฟวันแล้ววันเล่า เขาก็ปฏิเสธที่จะหลับนอนกับนางหรือแม้แต่จะอยู่ใกล้นาง
  • ปฐมกาล 39:11 - วันหนึ่งขณะที่โยเซฟเข้าไปในบ้านเพื่อทำงานตามหน้าที่ของเขา ขณะนั้นไม่มีคนรับใช้อื่นๆ อยู่ในบ้านเลย
  • ปฐมกาล 39:12 - ภรรยาของโปทิฟาร์เข้ามากระชากเสื้อของโยเซฟไว้แล้วบอกว่า “มานอนกับฉันเถิด!” แต่เขาทิ้งเสื้อไว้ในมือของนางแล้ววิ่งหนีออกไปนอกบ้าน
  • ปฐมกาล 39:13 - เมื่อนางเห็นว่าเสื้อของโยเซฟอยู่ในมือ และตัวเขาวิ่งออกไปนอกบ้านแล้ว
  • ปฐมกาล 39:14 - นางจึงเรียกคนรับใช้คนอื่นๆ ในบ้านมาและกล่าวว่า “ดูสิ สามีฉันนำเจ้าฮีบรูคนนี้มาหยามพวกเรา มันเข้ามาที่นี่และจะหลับนอนกับข้า แต่ข้ากรีดร้องขึ้น
  • ปฐมกาล 39:15 - เมื่อมันได้ยินข้าร้องขอความช่วยเหลือ มันจึงทิ้งเสื้อไว้ข้างตัวข้าแล้ววิ่งหนีออกจากบ้านไป”
  • ปฐมกาล 39:16 - นางเก็บเสื้อตัวนั้นไว้จนกระทั่งสามีกลับมาบ้าน
  • ปฐมกาล 39:17 - แล้วนางจึงเล่าเรื่องนี้ให้สามีฟังว่า “เจ้าฮีบรูคนนั้นที่ท่านนำมาให้พวกเราจะเข้ามาหยามข้า
  • ปฐมกาล 39:18 - แต่ทันทีที่ข้ากรีดร้องขอความช่วยเหลือ มันจึงทิ้งเสื้อไว้ข้างตัวข้าแล้ววิ่งหนีออกจากบ้านไป”
  • ปฐมกาล 39:19 - เมื่อเจ้านายของโยเซฟได้ยินเรื่องนี้จากภรรยาของเขาซึ่งกล่าวว่า “นี่เป็นสิ่งที่ทาสของท่านทำกับข้า” เขาจึงโกรธจัด
  • ปฐมกาล 39:20 - และเจ้านายนำโยเซฟมาขังไว้ในคุกหลวง แต่ขณะที่โยเซฟถูกขังอยู่ในคุกนั้น
  • ปฐมกาล 39:21 - องค์พระผู้เป็นเจ้าสถิตกับโยเซฟ ทรงกรุณาเขา และทำให้โยเซฟเป็นที่โปรดปรานในสายตาของพัศดี
  • ปฐมกาล 39:22 - ดังนั้นพัศดีจึงตั้งให้โยเซฟเป็นผู้ดูแลนักโทษทุกคน และให้เขารับผิดชอบงานทุกอย่างในคุก
  • ปฐมกาล 39:23 - พัศดีผู้นั้นไม่ต้องใส่ใจต่อสิ่งใดๆ ที่อยู่ภายใต้การดูแลของโยเซฟ เพราะว่าองค์พระผู้เป็นเจ้าสถิตกับโยเซฟและประทานความสำเร็จในทุกสิ่งที่เขาทำ
  • 1พงศาวดาร 2:2 - ดาน โยเซฟ เบนยามิน นัฟทาลี กาด และอาเชอร์ ( นรธ.4:18-22 ; มธ.1:3-6 )
  • อพยพ 1:3 - อิสสาคาร์ เศบูลุน เบนยามิน
  • ปฐมกาล 35:16 - จากนั้นพวกเขาเดินทางออกจากเบธเอล ขณะที่พวกเขาใกล้จะถึงเอฟราธาห์ ราเชลเริ่มเจ็บท้องคลอดและทรมานมาก
  • ปฐมกาล 35:17 - ขณะที่กำลังทุรนทุรายอยู่นั้น นางผดุงครรภ์ก็ปลอบว่า “อย่ากลัวเลย เพราะเธอกำลังจะได้ลูกชายอีกคน”
  • ปฐมกาล 35:18 - ขณะที่ราเชลกำลังจะสิ้นลมหายใจ นางตั้งชื่อลูกว่าเบนโอนี แต่ยาโคบเรียกเขาว่าเบนยามิน
  • อพยพ 1:5 - วงศ์วานของยาโคบที่เข้าไปในอียิปต์กับเขานับได้ทั้งหมดเจ็ดสิบคน ส่วนโยเซฟอยู่ที่นั่นแล้ว
  • ปฐมกาล 49:22 - “โยเซฟเป็นเถาองุ่นที่ผลิดอกออกผล เป็นเถาองุ่นที่ผลิดอกออกผลอยู่ใกล้น้ำพุ กิ่งเถาของมันเลื้อยข้ามกำแพง
  • ปฐมกาล 49:23 - พลธนูโจมตีเขาด้วยความเคียดแค้น ยิงเข้าใส่เขาด้วยใจเกลียดชัง
  • ปฐมกาล 49:24 - แต่ธนูของเขานิ่งไม่สั่นไหว แขนของเขาแข็งแรงไม่อ่อนล้า เนื่องด้วยพระหัตถ์ขององค์ผู้ทรงฤทธิ์ของยาโคบ เนื่องด้วยพระผู้เลี้ยง พระศิลาของอิสราเอล
  • ปฐมกาล 49:25 - เนื่องด้วยพระเจ้าของบิดาเจ้าผู้ทรงช่วยเจ้า เนื่องด้วยองค์ทรงฤทธิ์ผู้ทรงอวยพรเจ้า ด้วยพรแห่งสวรรค์เบื้องบน พรแห่งที่ลึกเบื้องล่าง พรแห่งอ้อมอกและครรภ์
  • ปฐมกาล 49:26 - พรจากบิดาของเจ้ายิ่งใหญ่ กว่าพรแห่งภูเขาดึกดำบรรพ์ กว่า ความอุดมแห่งเนินเขาเก่าแก่ ขอพระพรเหล่านี้จงอยู่บนศีรษะของโยเซฟ อยู่บนกระหม่อมของเจ้าผู้ยิ่งใหญ่ท่ามกลาง พี่น้องของเจ้า
  • ปฐมกาล 49:27 - “เบนยามินเป็นสุนัขป่าที่หิวโซ ในตอนเช้าเขาขย้ำเหยื่อ ในตอนเย็นเขาแบ่งของที่ยึดมาได้”
  • กันดารวิถี 1:36 - จากวงศ์วานของเบนยามิน ผู้ชายอายุยี่สิบปีขึ้นไปทุกคนที่ออกรบได้ ขึ้นบัญชีรายชื่อตามตระกูลและตามครอบครัว
  • กันดารวิถี 1:37 - จำนวนพลจากเผ่าเบนยามิน 35,400 คน
  • ปฐมกาล 29:18 - ยาโคบหลงรักราเชลจึงกล่าวว่า “ฉันจะทำงานให้ท่านเจ็ดปีเพื่อแลกกับราเชลลูกสาวคนเล็กเป็นค่าตอบแทน”
  • ปฐมกาล 44:27 - “แล้วพ่อของเราผู้รับใช้ของท่านจึงพูดกับพวกเราว่า ‘เจ้าก็รู้ว่าภรรยาคนนี้ของพ่อมีลูกชายให้พ่อสองคน
逐节对照交叉引用