gen 49:19 TNCV
逐节对照
交叉引用
  • โยชูวา 13:8 - สำหรับเผ่ารูเบน กาด และเผ่ามนัสเสห์อีกครึ่งเผ่าได้รับกรรมสิทธิ์ทางฟากตะวันออกของแม่น้ำจอร์แดน ซึ่งโมเสสผู้รับใช้ขององค์พระผู้เป็นเจ้าได้ยกให้ก่อนแล้ว
  • 1พงศาวดาร 3:18 - มัลคีราม เปดายาห์ เชนาสซาร์ เยคามิยาห์ โฮชามา และเนดาบียาห์
  • 1พงศาวดาร 3:19 - บุตรของเปดายาห์ ได้แก่ เศรุบบาเบลกับชิเมอี บุตรของเศรุบบาเบล ได้แก่ เมชุลลามกับฮานันยาห์ บุตรสาวคือเชโลมิท
  • 1พงศาวดาร 3:20 - และบุตรคนอื่นๆ อีกห้าคน ได้แก่ ฮาชูบาห์ โอเฮล เบเรคิยาห์ ฮาสาดิยาห์ และยูชับเฮเสด
  • 1พงศาวดาร 3:21 - วงศ์วานของฮานันยาห์ ได้แก่ เปลาทียาห์และเยชายาห์กับบุตรทั้งหลายของเรไฟยาห์ ของอารนัน ของโอบาดีห์ และของเชคานิยาห์
  • 1พงศาวดาร 3:22 - วงศ์วานของเชคานิยาห์ ได้แก่ เชไมอาห์และบุตรคือ ฮัททัช อิกาล บารียาห์ เนอารียาห์ และชาฟัท รวมหกคน
  • กันดารวิถี 32:1 - คนเผ่ารูเบนและคนเผ่ากาดซึ่งมีฝูงสัตว์เป็นจำนวนมาก เห็นว่าดินแดนยาเซอร์และกิเลอาดเป็นทำเลเหมาะแก่ฝูงสัตว์
  • กันดารวิถี 32:2 - ดังนั้นจึงพากันมาพบโมเสส ปุโรหิตเอเลอาซาร์ และเหล่าผู้นำของชุมชน แล้วกล่าวว่า
  • กันดารวิถี 32:3 - “อาทาโรท ดีโบน ยาเซอร์ นิมราห์ เฮชโบน เอเลอาเลห์ เสบาม เนโบ และเบโอน
  • กันดารวิถี 32:4 - ดินแดนซึ่งองค์พระผู้เป็นเจ้าทรงปราบต่อหน้าประชากรอิสราเอล เป็นทำเลที่ดีเหมาะสำหรับฝูงสัตว์ของข้าพเจ้าทั้งหลาย
  • กันดารวิถี 32:5 - หากพวกเราเป็นที่โปรดปรานของท่าน ก็โปรดยกดินแดนส่วนนี้ให้ผู้รับใช้ของท่านแทนดินแดนอีกฟากหนึ่งของแม่น้ำจอร์แดนนั้นเถิด”
  • กันดารวิถี 32:6 - โมเสสกล่าวกับคนเผ่ากาดและคนเผ่ารูเบนว่า “จะให้พี่น้องร่วมชาติออกรบขณะที่พวกท่านนั่งอยู่ที่นี่หรือ?
  • กันดารวิถี 32:7 - เหตุใดพวกท่านบั่นทอนกำลังใจพี่น้องอิสราเอลไม่ให้ข้ามไปยังดินแดนซึ่งองค์พระผู้เป็นเจ้าประทานแก่พวกเขา?
  • กันดารวิถี 32:8 - บรรพบุรุษของพวกท่านก็ทำเช่นนี้ เมื่อเราส่งพวกเขาจากคาเดชบารเนียไปสำรวจดินแดนนั้น
  • กันดารวิถี 32:9 - หลังจากพวกเขากลับมาจากหุบเขาเอชโคล์และดูดินแดนนั้นแล้ว พวกเขาก็ทำให้พี่น้องอิสราเอลท้อใจ ไม่ยอมเข้าสู่ดินแดนที่องค์พระผู้เป็นเจ้าประทานแก่เขา
  • กันดารวิถี 32:10 - ในวันนั้นองค์พระผู้เป็นเจ้าทรงพระพิโรธและทรงปฏิญาณว่า
  • กันดารวิถี 32:11 - ‘เนื่องจากพวกเขาไม่ได้ติดตามเราอย่างสุดหัวใจ ดังนั้นจะไม่มีผู้ชายสักคนที่อายุยี่สิบปีขึ้นไปซึ่งออกมาจากอียิปต์จะได้เห็นดินแดนที่เราสัญญาไว้กับอับราฮัม อิสอัค และยาโคบ
  • กันดารวิถี 32:12 - ไม่มีเลยสักคน ยกเว้นคาเลบบุตรเยฟุนเนห์แห่งเคนัสและโยชูวาบุตรนูนผู้ได้ติดตามองค์พระผู้เป็นเจ้าอย่างสุดใจ’
  • กันดารวิถี 32:13 - องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงพระพิโรธอิสราเอล และทรงกระทำให้เขาทั้งหลายเร่ร่อนในถิ่นกันดารตลอดสี่สิบปี ตราบจนคนในชั่วอายุนั้นที่ทำชั่วในสายพระเนตรของพระองค์ตายหมด
  • กันดารวิถี 32:14 - “แต่นี่พวกท่านเชื้อไม่ทิ้งแถว เดินตามรอยบรรพบุรุษ ทำให้องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงพระพิโรธอิสราเอลยิ่งขึ้น
  • กันดารวิถี 32:15 - หากพวกท่านหันไปจากการติดตามพระเจ้า พระองค์จะทรงปล่อยประชากรทั้งหมดนี้ไว้ในถิ่นกันดารอีก ท่านย่อมจะเป็นต้นเหตุของความย่อยยับของเหล่าประชากร”
  • กันดารวิถี 32:16 - พวกเขาจึงชี้แจงว่า “ไม่ใช่เช่นนั้น พวกข้าพเจ้าเพียงแต่จะสร้างคอกให้ฝูงสัตว์เลี้ยง และสร้างบ้านเรือนให้ผู้หญิงกับเด็กอยู่
  • กันดารวิถี 32:17 - ส่วนพวกข้าพเจ้าจะถืออาวุธนำหน้าชนอิสราเอลอื่นๆ จนกว่าจะได้นำพวกเขาไปยังดินแดนกรรมสิทธิ์ ในขณะที่พวกผู้หญิงกับเด็กของเราจะอาศัยในเมืองป้อมปราการ เพื่อปกป้องพวกเขาให้พ้นจากชาวดินแดนนั้น
  • กันดารวิถี 32:18 - พวกข้าพเจ้าจะไม่กลับมาบ้านจนกว่าอิสราเอลทุกคนจะได้รับมรดกของเขาเสียก่อน
  • กันดารวิถี 32:19 - พวกเราจะไม่รับดินแดนใดๆ ที่อีกฟากหนึ่งของแม่น้ำจอร์แดน เพราะเราได้รับมรดกของเราที่ฟากตะวันออกของแม่น้ำจอร์แดนนี้แล้ว”
  • กันดารวิถี 32:20 - โมเสสจึงกล่าวว่า “หากท่านจะทำตามคำพูด คือถืออาวุธออกรบฝ่ายองค์พระผู้เป็นเจ้า
  • กันดารวิถี 32:21 - และหากทุกคนในพวกท่านจับอาวุธข้ามแม่น้ำจอร์แดนไปต่อหน้าองค์พระผู้เป็นเจ้าตราบจนพระองค์ทรงขับไล่เหล่าศัตรูของพระองค์พ้นจากเบื้องพระพักตร์
  • กันดารวิถี 32:22 - ท่านจะกลับมาได้ก็ต่อเมื่อแผ่นดินนั้นสยบราบคาบต่อหน้าองค์พระผู้เป็นเจ้าแล้ว และท่านจะพ้นจากหน้าที่ต่อองค์พระผู้เป็นเจ้าและต่ออิสราเอล แล้วดินแดนฟากตะวันออกนี้จะเป็นกรรมสิทธิ์ของท่านต่อหน้าองค์พระผู้เป็นเจ้า
  • กันดารวิถี 32:23 - “แต่ถ้าพวกท่านไม่ทำตามที่พูดไว้ ท่านก็ได้ทำบาปต่อองค์พระผู้เป็นเจ้าจงรู้แน่เถิดว่าบาปนั้นจะตามสนองท่าน
  • กันดารวิถี 32:24 - จงไปสร้างบ้านเมืองให้ผู้หญิงและเด็กของท่าน สร้างคอกให้ฝูงสัตว์ของท่าน และจงทำตามที่ท่านสัญญาไว้”
  • กันดารวิถี 32:25 - ชนเผ่ารูเบนและเผ่ากาดตอบว่า “เราผู้รับใช้ของท่านจะทำตามที่เจ้านายของเราสั่ง
  • กันดารวิถี 32:26 - บุตรหลาน ภรรยา และฝูงสัตว์ของข้าพเจ้าทั้งหลายจะอยู่ที่เมืองต่างๆ ในดินแดนกิเลอาดนี้
  • กันดารวิถี 32:27 - แต่ผู้รับใช้ของท่านที่เป็นชายทุกคนจะจับอาวุธออกศึก จะข้ามไปสู้รบต่อหน้าองค์พระผู้เป็นเจ้าตามที่เจ้านายของเราบอก”
  • กันดารวิถี 32:28 - โมเสสจึงออกคำสั่งแก่ปุโรหิตเอเลอาซาร์ โยชูวาบุตรนูน และผู้นำเผ่าต่างๆ ของอิสราเอลเกี่ยวกับคนเหล่านี้ว่า
  • กันดารวิถี 32:29 - “หากผู้ชายเผ่ากาดและเผ่ารูเบนทุกคนจับอาวุธข้ามแม่น้ำจอร์แดนร่วมออกรบกับท่านต่อหน้าองค์พระผู้เป็นเจ้าและเมื่อปราบดินแดนนั้นได้แล้ว จงยกดินแดนกิเลอาดให้พวกเขาครอบครอง
  • กันดารวิถี 32:30 - แต่หากพวกเขาไม่ข้ามไปร่วมทัพกับท่าน พวกเขาจะต้องรับดินแดนร่วมกับตระกูลอื่นๆ ในคานาอัน”
  • กันดารวิถี 32:31 - คนเผ่ากาดและเผ่ารูเบนตอบว่า “ผู้รับใช้ของท่านจะปฏิบัติตามที่องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงบัญชา
  • กันดารวิถี 32:32 - เราจะถืออาวุธข้ามแม่น้ำจอร์แดนเข้าสู่คานาอันต่อหน้าองค์พระผู้เป็นเจ้าแต่ดินแดนกรรมสิทธิ์ของเราจะอยู่ที่ฟากนี้ของแม่น้ำ”
  • กันดารวิถี 32:33 - โมเสสจึงกำหนดให้ดินแดนของกษัตริย์สิโหนของชาวอาโมไรต์ และของกษัตริย์โอกแห่งบาชาน ทั้งที่ดินและเมืองต่างๆ กับอาณาบริเวณโดยรอบเป็นของเผ่ากาด รูเบน และครึ่งหนึ่งของเผ่ามนัสเสห์บุตรโยเซฟ
  • กันดารวิถี 32:34 - คนเผ่ากาดสร้างเมืองดีโบน อาทาโรท อาโรเออร์
  • กันดารวิถี 32:35 - อัทโรทโชฟาน ยาเซอร์ โยกเบฮาห์
  • กันดารวิถี 32:36 - เบธนิมราห์ และเบธฮาราน เป็นเมืองที่มีป้อมปราการและสร้างคอกสำหรับฝูงสัตว์
  • กันดารวิถี 32:37 - เผ่ารูเบนสร้างเมืองเฮชโบน เอเลอาเลห์ คีริยาธาอิม
  • กันดารวิถี 32:38 - เนโบ บาอัลเมโอน (ชาวอิสราเอลได้เปลี่ยนชื่อเมืองเหล่านี้) และสิบมาห์ พวกเขาได้ตั้งชื่อเมืองที่สร้างขึ้นใหม่
  • กันดารวิถี 32:39 - เชื้อสายมาคีร์แห่งเผ่ามนัสเสห์ไปตีเมืองกิเลอาด และขับไล่ชาวอาโมไรต์ซึ่งอยู่ที่นั่นออกไป
  • กันดารวิถี 32:40 - โมเสสจึงยกเมืองกิเลอาดให้คนมาคีร์ซึ่งเป็นลูกหลานของมนัสเสห์อาศัย และพวกเขาได้ตั้งถิ่นฐานที่นั่น
  • กันดารวิถี 32:41 - ยาอีร์แห่งเผ่ามนัสเสห์ได้ยึดถิ่นฐานของพวกเขาและเปลี่ยนชื่อเป็นฮัฟโวทยาอีร์
  • กันดารวิถี 32:42 - และโนบาห์ได้ยึดเคนาทกับหมู่บ้านโดยรอบ และตั้งชื่อว่าโนบาห์ตามชื่อของตน
  • ผู้วินิจฉัย 10:1 - หลังจากยุคของอาบีเมเลค ก็มีโทลาบุตรปูอาห์หลานโดโดจากตระกูลอิสสาคาร์ขึ้นมาช่วยกอบกู้อิสราเอล เขาอาศัยอยู่ที่ชามีร์ในแดนเทือกเขาแห่งเอฟราอิม
  • ผู้วินิจฉัย 10:2 - โทลาวินิจฉัย อิสราเอลอยู่ 23 ปี เมื่อเขาสิ้นชีวิตก็ถูกฝังไว้ที่ชามีร์
  • ผู้วินิจฉัย 10:3 - แล้วยาอีร์แห่งกิเลอาดดำรงตำแหน่งสืบต่อมา เขาวินิจฉัยอิสราเอลอยู่ 22 ปี
  • ผู้วินิจฉัย 10:4 - เขามีบุตรชายสามสิบคน พวกเขาขี่ลาคนละตัวและครองเมืองสามสิบเมืองในดินแดนกิเลอาด ซึ่งยังคงเรียกกันว่าฮัฟโวทยาอีร์ จนถึงทุกวันนี้
  • ผู้วินิจฉัย 10:5 - เมื่อยาอีร์สิ้นชีวิตก็ถูกฝังไว้ที่คาโมน
  • ผู้วินิจฉัย 10:6 - แล้วอิสราเอลทำสิ่งที่ชั่วในสายพระเนตรขององค์พระผู้เป็นเจ้าอีก พวกเขาปรนนิบัติพระบาอัล พระอัชโทเรท และพระต่างๆ ของชาวอารัม ไซดอน โมอับ อัมโมน และฟีลิสเตีย เนื่องจากอิสราเอลละทิ้งองค์พระผู้เป็นเจ้าและไม่ปรนนิบัติพระองค์อีกต่อไป
  • ผู้วินิจฉัย 10:7 - พระองค์จึงทรงพระพิโรธพวกเขา ทรงขายพวกเขาให้ตกอยู่ในมือของชาวฟีลิสเตียและชาวอัมโมน
  • ผู้วินิจฉัย 10:8 - ผู้ซึ่งเข้ามาบดขยี้พวกเขาในปีนั้น ตลอดสิบแปดปีคนเหล่านั้นมากดขี่ข่มเหงอิสราเอลทั้งปวงทางฟากตะวันออกของแม่น้ำจอร์แดนในกิเลอาดซึ่งเป็นดินแดนของชาวอาโมไรต์
  • ผู้วินิจฉัย 10:9 - ชาวอัมโมนยังข้ามแม่น้ำจอร์แดนมาสู้รบกับยูดาห์ เบนยามิน และเผ่าเอฟราอิมด้วย อิสราเอลทุกข์แสนสาหัส
  • ผู้วินิจฉัย 10:10 - แล้วชนชาติอิสราเอลร้องทูลองค์พระผู้เป็นเจ้าว่า “ข้าพระองค์ทั้งหลายได้ทำบาปต่อพระองค์ โดยละทิ้งพระเจ้าของข้าพระองค์ทั้งหลายและไปปรนนิบัติพระบาอัล”
  • ผู้วินิจฉัย 10:11 - องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสตอบว่า “เมื่อชาวอียิปต์ อาโมไรต์ อัมโมน ฟีลิสเตีย
  • 1พงศาวดาร 5:11 - ชนเผ่ากาดอาศัยถัดจากพวกเขาในดินแดนบาชานจนจดเมืองสาเลคาห์
  • 1พงศาวดาร 5:12 - โยเอลเป็นหัวหน้า รองลงมาคือชาฟาม จากนั้นคือยานัยกับชาฟัทในบาชาน
  • 1พงศาวดาร 5:13 - ญาติของเขาตามครอบครัวต่างๆ ได้แก่ มีคาเอล เมชุลลาม เชบา โยรัย ยาคาน ศิอา และเอเบอร์ รวมเจ็ดคน
  • 1พงศาวดาร 5:14 - คนเหล่านี้คือบุตรของอาบีฮายิล ผู้เป็นบุตรของหุรี ผู้เป็นบุตรของยาโรอาห์ ผู้เป็นบุตรของกิเลอาด ผู้เป็นบุตรของมิคาเอล ผู้เป็นบุตรของเยชิชัย ผู้เป็นบุตรของยาโด ผู้เป็นบุตรของบูส
  • 1พงศาวดาร 5:15 - อาหิบุตรของอับดีเอล ผู้เป็นบุตรของกูนี เป็นหัวหน้าครอบครัว
  • 1พงศาวดาร 5:16 - ชนเผ่ากาดอาศัยอยู่ในดินแดนกิเลอาด ในดินแดนบาชาน และหมู่บ้านโดยรอบ และตลอดไปจนสุดทุ่งหญ้าแห่งชาโรน
  • 1พงศาวดาร 5:17 - ทั้งหมดนี้ล้วนมีชื่ออยู่ในบันทึกลำดับวงศ์ตระกูลในรัชกาลกษัตริย์โยธามแห่งยูดาห์และกษัตริย์เยโรโบอัมแห่งอิสราเอล
  • 1พงศาวดาร 5:18 - ชนเผ่ารูเบน กาด และมนัสเสห์ครึ่งเผ่ามีกำลังพล 44,760 คนเพื่อออกรบ ทุกคนล้วนแข็งแรงแกล้วกล้า สามารถถือโล่ จับดาบ ใช้ธนู และผ่านการฝึกเพื่อสู้รบ
  • 1พงศาวดาร 5:19 - พวกเขาสู้รบกับชาวฮาการ์ ชาวเยทูร์ ชาวนาฟิช และชาวโนดับ
  • 1พงศาวดาร 5:20 - พระเจ้าทรงช่วยเหลือพวกเขาในการสู้รบ และพระองค์ทรงมอบชาวฮาการ์กับพันธมิตรทั้งปวงแก่พวกเขา เพราะพวกเขาร้องทูลพระองค์ขณะสู้รบ พระองค์ทรงตอบคำอธิษฐานของพวกเขาเนื่องจากพวกเขาวางใจในพระองค์
  • 1พงศาวดาร 5:21 - พวกเขายึดฝูงสัตว์มาจากชาวฮาการ์ มีอูฐ 50,000 ตัว แกะ 250,000 ตัว ลา 2,000 ตัว และเชลย 100,000 คน
  • 1พงศาวดาร 5:22 - ศัตรูมากมายถูกฆ่าตายเพราะศึกครั้งนี้เป็นของพระเจ้า พวกเขาครอบครองดินแดนอยู่จนกระทั่งตกเป็นเชลย
  • ปฐมกาล 46:16 - บุตรของกาดได้แก่ เซโฟน ฮักกี ชูนี เอสโบน เอรี อาโรดี และอาเรลี
  • เฉลยธรรมบัญญัติ 33:20 - เขากล่าวถึงเผ่ากาดว่า “ขอถวายสรรเสริญแด่พระองค์ผู้ทรงขยายอาณาจักรของกาด! กาดมีชีวิตอยู่เยี่ยงราชสีห์ ซึ่งฉีกทึ้งแขนหรือศีรษะ
  • เฉลยธรรมบัญญัติ 33:21 - เขาเลือกดินแดนดีเยี่ยมที่สุดไว้เป็นของตนเอง ส่วนที่เป็นของผู้นำถูกสงวนไว้สำหรับเขา เมื่อบรรดาหัวหน้าของประชาชนมาชุมนุมกัน เขาทำให้ลุล่วงตามพระประสงค์อันชอบธรรมขององค์พระผู้เป็นเจ้า และตามพระวินิจฉัยเกี่ยวกับอิสราเอล”
  • 1พงศาวดาร 5:26 - ฉะนั้นพระเจ้าแห่งอิสราเอลทรงดลใจกษัตริย์ปูล (คือทิกลัทปิเลเสอร์)แห่งอัสซีเรียให้มาพิชิตและกวาดต้อนชนเผ่ารูเบน กาด และมนัสเสห์ครึ่งเผ่าไปเป็นเชลยอยู่ในแดนฮาลาห์ ฮาโบร์ ฮารา และแม่น้ำโกซานจวบจนทุกวันนี้
  • ปฐมกาล 30:11 - แล้วเลอาห์กล่าวว่า “โชคดีอะไรอย่างนี้!” ดังนั้นนางจึงตั้งชื่อเขาว่ากาด
逐节对照交叉引用