psa 119:67 TNCV
逐节对照
交叉引用
  • เฉลยธรรมบัญญัติ 32:15 - เยชูรุน อ้วนพีขึ้นก็พยศ ครั้นอิ่มหนำก็อ้วนใหญ่ ขนเป็นมันปลาบ เขาทอดทิ้งพระเจ้าผู้ทรงสร้างเขา ปฏิเสธพระศิลาพระผู้ช่วยให้รอดของตน
  • 2ซามูเอล 11:2 - เย็นวันหนึ่งดาวิดเสด็จจากแท่นบรรทม ทรงดำเนินไปรอบๆ ดาดฟ้าพระราชวัง จากที่นั่นพระองค์ทรงสังเกตเห็นสตรีงดงามมากผู้หนึ่งกำลังอาบน้ำอยู่
  • 2ซามูเอล 11:3 - ดาวิดทรงใช้คนไปสืบดูว่านางเป็นใคร คนนั้นก็มาทูลว่า “นางคือบัทเชบาบุตรสาวของเอลีอัม เป็นภรรยาของอุรียาห์ชาวฮิตไทต์ไม่ใช่หรือ?”
  • 2ซามูเอล 11:4 - ดาวิดจึงให้คนไปตามตัวนางมา และเมื่อนางมาเข้าเฝ้าก็ทรงร่วมหลับนอนกับนาง (นางเพิ่งเสร็จจากการชำระตัวหลังมีมลทิน) แล้ว นางก็กลับบ้าน
  • 2ซามูเอล 11:5 - เมื่อนางพบว่าตนตั้งครรภ์ก็ส่งข่าวมาถึงดาวิดทูลว่า “หม่อมฉันตั้งครรภ์”
  • 2ซามูเอล 11:6 - ดาวิดส่งข้อความไปยังโยอาบว่า “จงส่งตัวอุรียาห์ชาวฮิตไทต์มาพบเรา” โยอาบก็ส่งเขามาเข้าเฝ้าดาวิด
  • 2ซามูเอล 11:7 - เมื่ออุรียาห์มาถึง ดาวิดก็ตรัสถามถึงโยอาบและกองทัพว่าเป็นอย่างไรบ้าง สงครามคืบหน้าไปถึงไหน
  • 2ซามูเอล 11:8 - แล้วดาวิดตรัสสั่งอุรียาห์ว่า “จงกลับไปบ้านพักผ่อนเถิด” อุรียาห์จึงออกจากพระราชวัง และดาวิดให้คนนำของกำนัลตามหลังเขาไป
  • 2ซามูเอล 11:9 - แต่อุรียาห์ไม่ได้กลับบ้าน เขาค้างคืนอยู่ที่ประตูวังร่วมกับข้าราชบริพารคนอื่นๆ
  • 2ซามูเอล 11:10 - เมื่อดาวิดทรงทราบว่าอุรียาห์ไม่ได้กลับบ้านก็ตรัสถามเขาว่า “เจ้าเพิ่งกลับมาจากแดนไกลไม่ใช่หรือ? ทำไมจึงไม่กลับบ้าน?”
  • 2ซามูเอล 11:11 - อุรียาห์ทูลว่า “หีบพันธสัญญาและอิสราเอลกับยูดาห์ล้วนอยู่ในเต็นท์ ท่านแม่ทัพโยอาบและไพร่พลของฝ่าพระบาทล้วนตั้งค่ายอยู่กลางแจ้ง ควรหรือที่ข้าพระบาทจะกลับบ้าน กินดื่ม และหลับนอนกับภรรยา? ฝ่าพระบาททรงพระชนม์อยู่แน่ฉันใด ข้าพระบาทจะไม่ทำเช่นนั้นเด็ดขาดฉันนั้น!”
  • 2ซามูเอล 11:12 - ดาวิดตรัสว่า “เอาล่ะ คืนนี้ค้างเสียที่นี่เถิด แล้วพรุ่งนี้เราจะส่งเจ้ากลับไป” ฉะนั้นอุรียาห์จึงค้างอยู่ที่กรุงเยรูซาเล็มในวันนั้นและวันต่อมา
  • 2ซามูเอล 11:13 - ดาวิดเรียกให้เขาร่วมโต๊ะเสวยและทรงมอมเหล้าเขา แต่เย็นวันนั้นอุรียาห์ก็ออกไปนอนบนเสื่อท่ามกลางข้าราชบริพารอื่นๆ ไม่ได้กลับบ้าน
  • 2ซามูเอล 11:14 - เช้าวันรุ่งขึ้นดาวิดทรงส่งสาส์นถึงโยอาบ มอบให้อุรียาห์เป็นผู้ถือไป
  • 2ซามูเอล 11:15 - ในสาส์นนั้นพระองค์ทรงเขียนว่า “จงส่งตัวอุรียาห์ออกไปที่ด้านหน้าของแนวรบที่อันตรายที่สุด แล้วถอยทัพปล่อยให้เขาถูกฆ่าตาย”
  • 2ซามูเอล 11:16 - ขณะล้อมเมืองอยู่ โยอาบจึงมอบหมายให้อุรียาห์ไปยังตำแหน่งที่รู้ว่าศัตรูเข้มแข็งที่สุด
  • 2ซามูเอล 11:17 - ชาวเมืองนั้นก็ออกมาสู้รบกับโยอาบ แล้วอุรียาห์ชาวฮิตไทต์ก็ถูกฆ่าตายพร้อมกับทหารบางคนของดาวิด
  • 2ซามูเอล 11:18 - เมื่อโยอาบส่งรายงานการสู้รบมาทูลดาวิด
  • 2ซามูเอล 11:19 - เขากำชับผู้สื่อสารว่า “เมื่อเจ้าทูลรายงานจบแล้ว
  • 2ซามูเอล 11:20 - กษัตริย์อาจจะกริ้วและตรัสถามว่า ‘ทำไมพวกทหารถึงเข้าไปประชิดเมืองมากนักล่ะ? ไม่รู้หรือว่าอาจจะถูกธนูยิงมาจากกำแพง?
  • 2ซามูเอล 11:21 - อาบีเมเลคบุตรเยรุบเบเชท ก็ถูกฆ่าตายมาแล้วที่เธเบศโดยน้ำมือผู้หญิงที่ทุ่มหินโม่ลงมาจากกำแพงไม่ใช่หรือ? แล้วทำไมพวกเจ้าจึงเข้าไปชิดกำแพงมากนักเล่า?’ ถ้าพระองค์ตรัสถามเช่นนี้ ก็จงทูลว่า ‘อุรียาห์ชาวฮิตไทต์คนรับใช้ของฝ่าพระบาทถูกฆ่าตายแล้ว’”
  • 2ซามูเอล 11:22 - ผู้สื่อสารจึงเดินทางมาเข้าเฝ้า และกราบทูลดาวิดตามที่โยอาบสั่งทุกอย่าง
  • 2ซามูเอล 11:23 - เขาทูลดาวิดว่า “ข้าศึกมีกำลังเหนือกว่าเราและออกมาสู้กับเราที่นอกเมือง แต่เรารุกไล่เขากลับไปที่ทางเข้าประตูเมือง
  • 2ซามูเอล 11:24 - คนบนกำแพงยิงธนูเข้าใส่เรา ฝ่ายเราถูกฆ่าตายไปบ้าง แล้วอุรียาห์ชาวฮิตไทต์ก็ตายด้วย”
  • 2ซามูเอล 11:25 - ดาวิดตรัสกับผู้สื่อสารว่า “บอกโยอาบว่า ‘อย่าท้อใจในเรื่องนี้ ดาบฆ่าคนไม่เลือกหน้า จงโจมตีเมืองนั้นต่อไปและทำลายเสีย’ จงพูดอย่างนี้เพื่อให้กำลังใจโยอาบด้วย”
  • 2ซามูเอล 11:26 - เมื่อภรรยาของอุรียาห์ได้ยินว่าสามีตายแล้ว นางก็ไว้ทุกข์ให้เขา
  • 2ซามูเอล 11:27 - และเมื่อครบกำหนดไว้ทุกข์ ดาวิดก็ส่งคนไปรับตัวนางมาเป็นมเหสี พระนางประสูติโอรสองค์หนึ่ง แต่องค์พระผู้เป็นเจ้าไม่พอพระทัยการกระทำของดาวิด
  • สดุดี 73:5 - เขาไม่ต้องแบกรับภาระเหมือนคนอื่นๆ เขาไม่ต้องเป็นทุกข์ด้วยโรคภัยไข้เจ็บ
  • สดุดี 73:6 - ฉะนั้นเขาจึงคล้องความเย่อหยิ่งเป็นสร้อยคอ เขาสวมความรุนแรงเป็นอาภรณ์คลุมกาย
  • สดุดี 73:7 - ความชั่วช้าออกมาจากใจที่ตายด้านของเขา ความคิดชั่วในจิตใจของเขาไร้ขีดจำกัด
  • สดุดี 73:8 - เขาเย้ยหยัน พูดอย่างมุ่งร้าย และข่มขู่คุกคามอย่างโอหัง
  • สดุดี 73:9 - ริมฝีปากของเขาอ้างสิทธิ์เหนือฟ้าสวรรค์ ลิ้นของเขาอวดอ้างกรรมสิทธิ์เหนือแผ่นดินโลก
  • สดุดี 73:10 - ฉะนั้นคนของเขาจึงหันไปหาพวกเขา และดื่มห้วงน้ำหมดไปอย่างมากมาย
  • สดุดี 73:11 - พวกเขาพูดว่า “พระเจ้าจะรู้ได้อย่างไร? องค์ผู้สูงสุดจะรู้หรือ?”
  • สดุดี 73:12 - คนชั่วเป็นเช่นนี้แหละ สุขสบายอยู่ร่ำไป พวกเขาร่ำรวยขึ้นเรื่อยๆ
  • สดุดี 73:13 - แน่ทีเดียว ข้าพเจ้ารักษาใจให้บริสุทธิ์ และชำระมือให้ปราศจากมลทินโดยเปล่าประโยชน์
  • สดุดี 73:14 - ข้าพเจ้าถูกรุมเล่นงานวันยังค่ำ และถูกลงโทษอยู่ทุกเช้า
  • สดุดี 73:15 - หากข้าพเจ้าได้กล่าวว่า “เราจะพูดเช่นนั้น” ข้าพเจ้าก็คงจะได้ทรยศต่อลูกๆ ของพระองค์
  • สดุดี 73:16 - เมื่อข้าพเจ้าพยายามที่จะเข้าใจทั้งหมดนี้ ก็ทำให้ลำบากใจยิ่งนัก
  • สดุดี 73:17 - จนกระทั่งข้าพเจ้าเข้าไปยังสถานนมัสการของพระเจ้า ข้าพเจ้าจึงเข้าใจถึงจุดหมายปลายทางสุดท้ายของพวกเขา
  • สดุดี 73:18 - แน่ทีเดียว พระองค์ทรงให้เขายืนอยู่บนที่ลื่น พระองค์ทรงเหวี่ยงเขาลงสู่หายนะ
  • สดุดี 73:19 - เขาถูกทำลายไปทันที ถูกกวาดล้างหมดสิ้นไปด้วยความสยดสยอง!
  • สดุดี 73:20 - ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้า เมื่อพระองค์ทรงลุกขึ้นก็เหมือนคนที่ตื่นจากฝัน พระองค์จะทรงเหยียดหยามเขาว่าเป็นเพียงภาพเพ้อฝัน
  • สดุดี 73:21 - เมื่อจิตใจของข้าพระองค์ทุกข์โศก เมื่อดวงวิญญาณของข้าพระองค์ขมขื่น
  • สดุดี 73:22 - ข้าพระองค์ก็ไม่รู้จักคิดและโง่เขลา ข้าพระองค์เป็นเหมือนสัตว์เดียรัจฉานต่อพระองค์
  • สดุดี 73:23 - แต่ถึงกระนั้น ข้าพระองค์ยังอยู่กับพระองค์เสมอ พระองค์ทรงยึดมือขวาของข้าพระองค์ไว้
  • สดุดี 73:24 - พระองค์ทรงนำข้าพระองค์ด้วยคำปรึกษาของพระองค์ และภายหลังพระองค์จะทรงรับข้าพระองค์เข้าสู่เกียรติสิริ
  • สดุดี 73:25 - นอกจากพระองค์แล้วข้าพระองค์มีผู้ใดอื่นในฟ้าสวรรค์หรือ? และในโลกนี้ข้าพระองค์ไม่ปรารถนาสิ่งใดนอกจากพระองค์
  • สดุดี 73:26 - กายใจของข้าพระองค์อาจจะเสื่อมถอย แต่พระเจ้าทรงเป็นพลังใจและเป็นส่วนมรดกของข้าพระองค์ตลอดไป
  • สดุดี 73:27 - บรรดาผู้ที่ห่างไกลพระองค์จะพินาศ พระองค์ทรงทำลายล้างคนทั้งปวงที่ไม่ซื่อสัตย์ต่อพระองค์
  • สดุดี 73:28 - แต่ส่วนข้าพระองค์ ดีเหลือเกินที่ได้เข้ามาใกล้พระเจ้า ข้าพระองค์ได้ให้พระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิตเป็นที่ลี้ภัยของข้าพระองค์ ข้าพระองค์จะเล่าถึงพระราชกิจทั้งสิ้นของพระองค์
  • วิวรณ์ 3:10 - เพราะพวกเจ้าได้อดทนอย่างยิ่งตามที่เราได้สั่งไว้ เราก็จะปกป้องเจ้าให้พ้นจากวาระแห่งการทดลองที่กำลังมาเหนือโลกทั้งโลกเพื่อทดสอบบรรดาผู้ที่อาศัยอยู่ในโลก
  • 2ซามูเอล 10:19 - เมื่อบรรดากษัตริย์ซึ่งขึ้นกับฮาดัดเอเซอร์ เห็นว่าพวกเขาพ่ายแพ้อิสราเอล ก็ขอสงบศึกและยอมเป็นเมืองขึ้นของอิสราเอล ชาวอารัมจึงไม่กล้ามาช่วยชาวอัมโมนสู้รบอีกเลย
  • เยเรมีย์ 22:21 - เราได้เตือนเจ้าตั้งแต่ครั้งที่เจ้ายังรู้สึกมั่นคงปลอดภัย แต่เจ้าตอบว่า ‘ข้าพระองค์จะไม่ฟัง!’ เจ้าเป็นแบบนี้มาตั้งแต่เด็ก คือไม่ยอมเชื่อฟังเรา
  • ฮีบรู 12:5 - และท่านได้ลืมถ้อยคำให้กำลังใจซึ่งมีมาถึงท่านในฐานะบุตรว่า “ลูกเอ๋ย อย่าละเลยการตีสอนขององค์พระผู้เป็นเจ้า อย่าท้อใจเมื่อพระองค์ทรงตำหนิท่าน
  • ฮีบรู 12:6 - เพราะองค์พระผู้เป็นเจ้าทรงตีสอนผู้ที่พระองค์ทรงรัก และทรงลงโทษทุกคนที่ทรงรับเป็นบุตร”
  • ฮีบรู 12:7 - จงทนความทุกข์ยากโดยถือเสมือนว่าเป็นการตีสอน พระเจ้าทรงปฏิบัติต่อท่านในฐานะบุตร เพราะบุตรคนไหนบ้างที่บิดาไม่เคยตีสอน?
  • ฮีบรู 12:8 - หากท่านไม่ถูกตีสอน (และทุกคนได้รับการตีสอน) ท่านก็เป็นบุตรนอกกฎหมายและไม่ใช่บุตรแท้
  • ฮีบรู 12:9 - ยิ่งไปกว่านั้นเราทั้งปวงล้วนมีบิดาซึ่งเป็นมนุษย์ผู้ตีสอนเราและเราเคารพนับถือท่านที่ทำเช่นนั้น ยิ่งกว่านั้นสักเพียงใดที่เราควรอยู่ในโอวาทของพระบิดาแห่งจิตวิญญาณของเราและมีชีวิตอยู่!
  • ฮีบรู 12:10 - บิดาของเราตีสอนเราชั่วระยะหนึ่งตามที่คิดเห็นว่าดีที่สุด แต่พระเจ้าทรงตีสอนเราเพื่อประโยชน์ของเรา เพื่อเราจะได้มีส่วนในความบริสุทธิ์ของพระองค์
  • ฮีบรู 12:11 - ไม่มีการตีสอนใดดูน่าชื่นใจในเวลานั้น มีแต่จะเจ็บปวด แต่ภายหลังจะเกิดผลเป็นความชอบธรรมและสันติสุขแก่บรรดาผู้รับการฝึกฝนโดยการตีสอนนั้น
  • สดุดี 119:176 - ข้าพระองค์หลงเตลิดไปเหมือนลูกแกะที่หลงทาง ขอทรงตามหาผู้รับใช้ของพระองค์ เพราะข้าพระองค์ไม่ลืมพระบัญชาของพระองค์
  • สดุดี 119:75 - ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้า ข้าพระองค์รู้ว่าบทบัญญัติของพระองค์นั้นชอบธรรม และรู้ว่าที่พระองค์ทรงทำให้ข้าพระองค์เป็นทุกข์นั้นก็เพราะพระองค์ทรงซื่อสัตย์
  • 2พงศาวดาร 33:9 - แต่มนัสเสห์กลับชักนำชาวยูดาห์และชาวเยรูซาเล็มให้หลงผิดไป ทรงทำสิ่งที่ชั่วร้ายยิ่งกว่าชนชาติต่างๆ ซึ่งองค์พระผู้เป็นเจ้าทรงทำลายไปให้พ้นหน้าชนอิสราเอลเสียอีก
  • 2พงศาวดาร 33:10 - องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสเตือนมนัสเสห์กับประชากร แต่พวกเขาไม่สนใจ
  • 2พงศาวดาร 33:11 - ฉะนั้นองค์พระผู้เป็นเจ้าจึงทรงส่งแม่ทัพของกษัตริย์อัสซีเรียมาสู้รบ และจับมนัสเสห์ไปเป็นเชลย เอาเบ็ดเกี่ยวจมูกของพระองค์ พันธนาการด้วยโซ่ตรวนทองสัมฤทธิ์ และคุมตัวไปยังบาบิโลน
  • 2พงศาวดาร 33:12 - ในความทุกข์ลำบาก มนัสเสห์ทรงถ่อมพระทัยลงอย่างยิ่งและทรงร้องขอความเมตตาจากพระยาห์เวห์พระเจ้าของบรรพบุรุษ
  • 2พงศาวดาร 33:13 - เมื่อมนัสเสห์อธิษฐาน พระองค์ก็ทรงสดับฟังและทรงตอบคำทูลวิงวอนพระองค์ให้มนัสเสห์ได้กลับคืนสู่กรุงเยรูซาเล็มและราชอาณาจักรอีกครั้งหนึ่ง มนัสเสห์จึงทรงสำนึกว่าพระยาห์เวห์ทรงเป็นพระเจ้า
  • สุภาษิต 1:32 - เพราะคนอ่อนต่อโลกจะฆ่าตัวเองด้วยการหันออกนอกลู่นอกทาง และคนโง่จะทำลายตัวเองด้วยความเฉยเมยของพวกเขา
  • สดุดี 119:71 - ดีแล้วที่ข้าพระองค์ทุกข์ยาก ข้าพระองค์จะได้เรียนรู้กฎหมายของพระองค์
  • โฮเชยา 2:6 - ฉะนั้นเราจะเอาพุ่มหนามกีดขวางหนทางของนาง เราจะล้อมกรอบจนนางหมดทางไป
  • โฮเชยา 2:7 - นางจะวิ่งไล่ตามชู้รัก แต่ไม่ทัน นางจะเสาะหาพวกเขา แต่ไม่พบ แล้วนางจะบอกว่า ‘ฉันจะกลับไปหาสามีคนแรกของฉัน เพราะเมื่อก่อนฉันมีชีวิตที่ดีกว่านี้มากนัก’
  • เยเรมีย์ 31:18 - “แน่ทีเดียว เราได้ยินเสียงเอฟราอิมโอดครวญว่า ‘พระองค์ทรงฝึกข้าพระองค์เหมือนฝึกลูกวัวที่ยังไม่เชื่อง และข้าพระองค์ก็ถูกฝึกฝน โปรดทรงช่วยให้ข้าพระองค์คืนสู่ปกติสุข แล้วข้าพระองค์จะหวนกลับมา เพราะพระองค์ทรงเป็นพระยาห์เวห์ พระเจ้าของข้าพระองค์
  • เยเรมีย์ 31:19 - เมื่อข้าพระองค์หลงทางไปแล้ว ข้าพระองค์ก็สำนึกผิด เมื่อข้าพระองค์เข้าใจแล้ว ข้าพระองค์ก็ตีอกชกตัว ข้าพระองค์อับอายและตกต่ำ เพราะทนรับความอัปยศอดสูจากบาปที่ทำในวัยหนุ่ม’
逐节对照交叉引用